เมนู

ฌาน อันเป็นไปในภายใน เป็นธรรมชาติผ่องใส เพราะวิตก วิจารสงบ
เป็นธรรมเอกผุดขึ้นแก่ใจ ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่
สมาธิ เป็นทุกขาปฏิปทาทันทาภิญญา อยู่ ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ
มีในสมัยนั้น สภาวธรรมเหล่านั้น ชื่อว่า กุศล.
ภิกษุ บรรลุทุติยฌานอันเป็นวิบาก เพราะโลกุตตรกุศลฌาน
อันได้ทำไว้แล้ว ได้เจริญไว้แล้วนั้นแล อันเป็นไปในภายใน เป็นธรรมชาติ
ผ่องใส เพราะวิตกวิจารสงบ เป็นธรรมเอกผุดขึ้นแก่ใจ ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร
มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิ เป็นทุกขาปฏิปทาทันธาภิญญา ชนิดสุญญตะ
อยู่ ในสมัยใด ฌานมีองค์ 3 คือ ปีติ สุข เอกัคคตาแห่งจิต มีในสมัยนั้น
เรียกว่า ทุติยฌานวิบาก ธรรมทั้งหลายที่เหลือ เรียกว่า ธรรมที่
สัมปยุตด้วยฌาน.
ตติยฌาน เป็นไฉน ?
ภิกษุ ในศาสนานี้ ฯลฯ นี้เรียกว่า ตติยฌานวิบาก ธรรมทั้งหลาย
ที่เหลือเรียกว่า ธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน.
จตุตถฌาน เป็นไฉน ?
ภิกษุ ในศาสนานี้ ฯลฯ นี้เรียกว่า จตุตถฌานวิบาก ธรรมทั้งหลาย
ที่เหลือเรียกว่า ธรรมที่สัมปยุตด้วยฌาน.

โลกุตตรวิปากฌาน ปัญจกนัย


ปฐมฌาน

เป็นไฉน ?
ภิกษุ ในศาสนานี้ เจริญโลกุตตรฌาน อันเป็นเครื่องนำออกไป
จากโลกให้เข้าสู่นิพพาน เพื่อประหาณทิฏฐิ เพื่อบรรลุปฐมภูมิ สงัดจากกาม